AdSense

Wedding

แชร์ประสบการณ์การทำเรื่องแต่งงานกับคนสวิสที่ประเทศไทย กรณีแยกกันยื่นเอกสาร Update 2019

สวัสดีค่ะ😃  ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวการเตรียมเอกสารและเตรียมตัวจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยค่ะ ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าเอกสารแต่ละคนไม่เหมือนกันอ่านเอาไปเป็นแนวทางเฉยๆก็ได้ค่ะ และสวิสมีการเปลี่ยนกฏตลอดเวลาดังนั้นเราต้องอัพเดทเสมอ ณ ช่วงเวลาที่เราทำค่ะ

***กรณีของเราแยกกันยื่นค่ะ แฟนยื่นที่สวิส เรายื่นที่ไทยค่ะ****

กรณีของเรา โสด ไม่มีลูก ไม่เคยแต่งงานมาก่อน ไม่เคยเปลี่ยนชื่อไม่มีพันธะใดๆค่ะ

1.Part 1 เตรียมเอกสาร

2.Part  2  การรับรองเอกสาร

3.Part  3  การยื่นเอกสารกับสถานทูต

4.Part  4  ใบขอทำการสมรส” (Marriage Application)

5.Part 5  การยื่น คร.2 ต่อสถานทูตสวิสในประเทศไทย

Part   1 :  เอกสารที่ต้องเตรียม

เข้าเวปไซต์ ของสถานทูตสวิสในประเทศไทยค่ะ

https://www.eda.admin.ch/bangkok

เข้าไปแล้วเลือก  ➥Service  ก็จะมีหน้าจอแบบนี้ค่ะ

จากนั้นตรงหน้าจอเราจะเห็นคำว่า Selection คลิกตรงนั้นเลยค่ะจะปรากฏหน้าเจอขึ้นมา ➥ เลือก Civil Status  affairs (marriage,birth,death,ect.)

ก็จะปรากฏหน้าจอตามรูปข้างล่างค่ะ เราก็คลิกเลือกตรง Marriage and registered partnership (การแต่งงาน,การสมรส)

เลื่อนลงมาข้างล่างจะเจอหน้าเจอนี้ค่ะ

 

กรณีที่แต่งงานในประเทศไทยก็เลือกไฟล์ Marriage Thailand มีไฟล์ภาษาไทยด้วยค่ะ

ตามลิ้งนะคะ

https://www.eda.admin.ch/dam/countries/countries-content/thailand/en/Ehe-in-Thailand_TH.pdf

ก็จะได้ไฟล์เอกสารที่ต้องเตรียมค่ะตามรูป อันนี้คือรูปตัวอย่างค่ะ  คลิกที่ไฟล์แล้วดูได้เลยค่ะ ว่ามีเอกสารอะไรบ้าง  ฝั่งเรา  และฝั่งแฟนค่ะ 😊 หมายเหตุ : หากมีการเปลี่ยนชื่อสกุล ตัวเรา พ่อ แม่ เอาเอกสารเหล่านั้นไปแปลให้หมดค่ะและรับรองที่กงสุลค่ะเราต้องแสดงตัวจริงให้ทางสถานทูตดูด้วยนะคะ 💁ทริคเล็กๆน้อยๆ : เมื่อเอกสารครบแล้ว เราก็ไปสถานทูตสวิสเพื่อเอาเอกสารไปตรวจเช็คก่อนเอาไปแปลค่ะเพื่อที่เอกสารบางตัวไม่ต้องแปลและไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะและเอกสารบางตัวไม่จำเป็นต้องใช้ …..เพื่อที่จะทำเรื่องแต่งงานในประเทศไทย เข้าไปสถานทูตด้านขวามือกดบัตรคิวเลยค่ะ เราไปกดบัตรคิวด้านซ้ายรอนาน สรุปกดบัตรคิวผิดฝั่ง ฝั่งซ้ายจะทำเรื่องวีซ่า  ฝั่งขวามือจะทำเรื่องเกี่ยวกับการสมรสค่ะ

เอกสารก็ค่อนข้างจะง่ายค่ะเอกสารส่วนของเรา 

1.พาสปอร์ต 2.สูติบัตร ให้เอาไปให้กงสุลแสตมป์รับรอง เราสะดวกที่ศูนย์ Mrt คลองเตย พอแสตมป์เสร็จให้เอาไปแปล (เอาตัวจริงไปโชว์แล้วถ่ายเอกสารไปด้วยค่ะใช้ตัวถ่ายเอกสารแสตมป์ได้ ไม่แนะนำให้ไปถ่ายที่ MRT คุณภาพไม่ดีค่ะ ถ่ายเตรียมของเราไปเองเลยตัวสำเนาทุกใบ) 3.สำเนาทะเบียนบ้านเราขอคัดสำเนาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เอาภาษาไทยไปให้กงสุลแสตมป์รับรอง ส่วนภาษาอังกฤษเอาใช้แนบได้เลยไม่ต้องแปลเป็นภาษาเยอรมันเพิ่ม(ประหยัดไปได้1แผ่นค่ะ) 4.หนังสือรับรองโสดจากอำเภอที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่ ปลัดอำเภอของเราได้เขียนครอบคลุมและรับรองระบุตรวจสอบในเอกสารว่าเราไม่เคยจดทะเบียนสมรสกับใครใดๆมาก่อน ฉะนั้นใบนี้เราไม่ต้องไปขอเพิ่มที่สำนักทะเบียนกลาง (นางเลิ้ง) ใช้ใบนี้ได้เลยและเอาไปแสตมป์และแปล 5.แม่เราเปลี่ยนชื่อ ชื่อไม่ตรงกับสูติบัตรให้นำใบเปลี่ยนชื่อตัวจริงของแม่มาด้วยเพื่อเอาไปสแตมป์รับรองและแปล 6.เอกสารสำเนาของแฟน (ตามที่สถานทูตร้องขอในส่วนของแฟน)นำเอกสารตัวนี้มาด้วยในวันที่เราไปยื่นในส่วนของเรา 7.ค่าธรรมเนียมเรียกเก็บในวันยื่น 23,050(หากเหลือจะคืนให้ในภายหลัง) 8.เอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้เรามาแสกนส่งให้แฟนและให้แฟนกรอก และเซ็นต์ชื่อแสกนส่งกลับมาให้เราเพื่อนำมาแนบในวันที่เราเป็นฝ่ายยื่นของเราที่นี่ (ตามรูปแนบ)  

    🤷‍♀️✌😁เจ้าหน้าที่สถานทูตระบุมี 2 กรณี 1.กรณีที่หนึ่งเรายื่นในส่วนของเราที่สถานทูต กรณีนี้เราต้องยื่นส่วนสำเนาของแฟนด้วยและให้แฟนไปยื่นเอกสารที่สำนักถิ่นที่อยู่ของเขาเองถ้าเอกสารมาเจอกัน ใช้เวลารอ 2เดือน สถานทูตจะโทรหาเราเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเอกสารการอนุญาติแต่งงานมาถึงแล้ว เพื่อที่จะให้เราบอกแฟนเตรียมวันเวลามาจดทะเบียนที่ไทยได้ ถ้าที่โน่นไม่ได้ใช้เอกสารตัวจริงของแฟนกรณีแฟนยื่นที่สำนักถิ่นที่อยู่ของเขาให้แฟนนำตัวจริงมาด้วยในวันทำขั้นตอนที่ 2 2.กรณีที่สองแฟนและเรานำเอกสารทั้งหมดไปยื่นพร้อมกันกรณีนี้เราต้องรอแฟนมาหา แฟนนำเอกสารตัวจริงมาด้วย ใช้เวลาหลังจากยื่น 2เดือน เพื่อรอใบอนุญาติการแต่งงานแล้วถึงจะทำขั้นตอนที่ 2 ต่อได้ ***เพิ่มเติมการขอรับรองสแตมป์ที่กงศุล แบบธรรมดาใบละ 200 บาท เราเอาไปขอรับรองวันนี้(วันพุธ)นัดรับวันศุกร์ค่ะแบบด่วน ใบละ400 บาท แบบด่วนรับได้ภายใน2 โมงเย็นของวันนั้นค่ะต้องไปเช้าๆหรือไม่ติดบ่ายสองโมงเย็นมากค่ะ***

Part 2 :  สถานที่รับรองเอกสาร ตามลิ้งนี้เลยค่ะ

เราสะดวกที่ MRT สถานีคลองเตยค่ะไปง่ายที่สุดส่วนที่อื่นดูได้ตามลิ้งค่ะ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว MRT คลองเตย สถานีรถไฟฟ้ามหานคร คลองเตย ทางออกที่ 2 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพ 10110 [เขตคลองเตย] MRT Khlong Toei Station Exit 2, Rama IV Rd., Khlong Toei, Khlong Toei, Bangkok 10110 Thailand 08:30-15:30 จ.-ศ. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทร. 0-2572-8442, 09-3010-5247 website : www.passport.in.th (ลงทะเบียนล่วงหน้าทำ Passport)

สถานที่รับรองเอกสาร คลิกที่นี่ค่ะ

Part 3 : การยื่นเอกสาร

  เมื่อเอกสารครบแล้วเราก็ทำการยื่นในส่วนของเราค่ะ เมื่อเอกสารของเราไปถึงทางโน้นเขาจะเรียกเอกสารแฟนเองค่ะ แฟนก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่สวิสไปค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากนอกจากรอค่ะ

 

Part  4  : ใบขอทำการสมรส” (Marriage Application)

สรุปเรารอใบนี้ 2 เดือนและพอดีกับที่แฟนมาเมืองไทยค่ะ  เจ้าหน้าที่สถานทูตโทรมาแจ้งว่า ใบขอทำการสมรสมาถึงแล้ว และให้เราเข้าไปรับ ใบนี้เพื่อเอาไปแปลและเมื่อแปลเสร็จแล้วก็เอาไปรับรองแสตมป์ที่กงสุลค่ะ เมื่อแสตมป์เสร็จแล้วก็เอาไปจดทะเบียนสมรสที่ทำการเขตทุกเขตได้ที่กรุงเทพฯค่ะ (กรุงเทพฯค่อนข้างมีคิวรอเยอะ บางที่ทำเป็นธุรกิจ)  และที่อำเภอบ้านเกิดเราจะง่ายสุดค่ะ เมื่อดำเนินการจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยทางเขตหรืออำเภอจะออกใบทะเบียนสมรสกรอบสีและใบทะเบียนสมรส (ค.ร.2) ตัวอย่างหน้าตาใบค.ร.2  ตามรูปข้างล่างค่ะ

 

😍ใบที่สถานทูตต้องการคือใบ (ค.ร.2)นี้ค่ะเราต้องขอคัดใบ (ค.ร.2) นี้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทั้งหน้าและหลังนะคะ คัดมาสัก 5 ชุดก็ได้เพื่อที่เราจะได้มีไว้ติดตัวให้แฟนและต้องเอาไปแปลสำคัญมากค่ะ และจำเป็นมากเพื่อที่จะเอาใบนี้ไปแปลและเอาไปแสตมป์ที่กงสุลก่อนยื่นต่อสถานทูตเป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ

Part 5 :  การยื่น คร.2 ต่อสถานทูตสวิสในประเทศไทย

เมื่อได้เอกสารคืนจากกงสุลแล้วก็เอาไปยื่นที่สถานทูตสวิสฝั่งขวามือ การสมรสค่ะ ทั้งฉบับภาษาไทยตัวจริงและตัวแปลที่มีการรับรองจากกุงสุลเรียบร้อยแล้วค่ะ คำถาม :  เราสามารถเอาใบ ค.ร.2ไปยื่นด้วยตัวเองได้ไหมโดยที่แฟนไม่ต้องไปด้วย คำตอบ : ได้ค่ะ 💗😍กระบวนการแต่งงานในประเทศไทยเสร็จสิ้นค่ะ🎼🎷 และเมื่อมาถึงสวิสแล้วก็มีกิจกรรมให้เราได้ทำมากมายเลยค่ะ ขอฝากลิ้ง YouTube  Channel :  Jiratika Step by Step Facebook Fanpage : @SteptoSwiss #แต่งงานในประเทศไทยกับคนสวิส  #MarryinThailand #Switzerland #FamilyThaiSwitzerland   pinterest-f5ab1